มีคำถามมาฝากค่ะ ใครตอบถูกได้รางวัลด้วยนะ !!!! (เฉลย 30 ส.ค.54)
Question : เจ้าของทฤษฎีทั้งสองนี้ เป็นคนเดียวกันหรือไม่??????
Curriculum Theory Vs Project Evaluation
(Tyler's Rationare) (Triple Ps Model)
1949 1950
ในทางหลักสูตรมี Tyler ทางวัดและประเมินก็มี Tyler เหมือนกันก็เลยสงสัยซะเลยว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า????? ลองตอบดูนะคะ ข้อมูลของท่านเป็นประโยชน์สำหรับแวดวงการศึกษาไทยค่ะ
วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
การทดสอบค่าเฉลี่ย กรณี 1 ตัวอย่าง
สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ใช้ในการวิจัยและข้อมูลที่ผู้วิจัยมีอยู่ ในสัปดาห์นี้จะกล่าวถึง การทดสอบค่าเฉลี่ย กรณีที่มีตัวอย่าง 1 กลุ่ม ข้อสังเกต สถิติตัวนี้จะใช้เมื่อมีข้อมูลชุดเดียวแล้วโจทย์ให้ทดสอบค่าเฉลี่ยแล้วเทียบกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เช่น จงทดสอบว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนกลุ่มนี้มากกว่า 50 คะแนนหรือไม่***
วิธีทำดังนี้
วิธีทำดังนี้
1.เริ่มต้นที่ Data View เลือกคำสั่งเพื่อการวิเคราะห์ในที่นี้เป็นการ test Value ใช้คำสั่งดังนี้ AnalyzeàCompare meanàOne Sample T-Test
2. นำ X ไปใส่ในช่อง test Variable กำหนดค่า test value เป็น 50 สมมติฐานคือ H0:µ ≤ 50, H1:µ > 50 เลือก OK
เวลาที่จะพิจารณาว่า Sig หรือไม่ ดังนี้
1. สมมติฐานเป็นแบบทางเดียว (ใช้เครื่องหมาย>,<,≥,≤)
หรือสองทาง (ใช้เครื่องหมาย = , ≠ )
2. ถ้าค่า Sig ที่ได้น้อยกว่าระดับนัยสำคัญที่กำหนด (α)ภาษาพูด = “Sig น้อยกว่าแอลฟ่า” ให้ปฎิเสธสมมติฐานหลักแล้วยอมรับสมมติฐานรอง **แต่หากเป็นการทดสอบทางเดียวเหมือนครั้งนี้ให้นำ Sig ÷2 แล้วค่อยเทียบ α**
วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
การวิเคราะห์ทางสถิติ
หัวใจสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
คือ นักวิจัยต้องจดจำขั้นตอนการทดสอบสมมติฐานทางสถิติให้ได้
ด้วยความเป็นสถิติ วิชาตามหลักคณิตศาสตร์ที่มีกฎเกณฑ์และต้องใช้การวิเคราะห์เป็นขั้้นตอน นักวิจัยหลายท่านคงรู้สึกว่าสถิติเป็นเรื่องยาก ซับซ้อน ไม่สามารถเข้าใจได้
แต่หากนักวิจัยเข้าใจหลักการของสถิติ หรือใช้คำตามภาษาพูดว่า "จับจุด" ได้นั้น ก็ไม่เกินความสามารถของสติปัญญาที่จะเข้าใจ ดังนั้น เพื่อนๆ หลายคนคงต้องจดจำ "ขั้นตอนการทดสอบสมมติฐาน" เพื่อเป็นจุดหลักและจุดเริ่มต้นสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์..
ขั้นตอนการทดสอบสอบสมมติฐาน
1. กำหนดสมมติฐาน
2. กำหนดระดับนัยสำคัญ
3. กำหนดสถิติที่ใช้ ***มีรายละเอียดที่จะอธิบายในครั้งต่อไป***
4. คำนวณค่าสถิติทดสอบ
5. สรุปผล (นำค่า sig ที่ได้จากตาราง output มาเปรียบเทียบกับระดับนัยสำคัญที่กำหนดในข้อ 2 ถ้า Sig<ระดับนัยสำคัญให้ ปฏิเสธสมมติฐานหลักยอมรับสมมติฐานรอง)
**นี่คือหัวใจสำคัญและอยากให้เพื่อนๆ จดจำ หัวใจ 5 ขั้นตอนนี้ให้ได้ก่อนที่จะก้าวสู่ขั้นต่อไปสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์**
วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
หลักสูตรคนดี
ความมีศีลธรรมของการกระทำของมนุษย์ขึ้นอยู่กับ 1) สิ่งที่เลือก 2) จุดหมายปลายทางซึ่งกำหนดไว้ล่วงหน้าหรือความตั้งใจ 3) สภาพแวดล้อมของการกระทำ “การกระทำ ความตั้งใจ สภาพแวดล้อม” ทำให้เกิด "แหล่งที่มา" หรือองค์ประกอบที่สร้างขึ้นของความมีศีลธรรมของการกระทำของมนุษย์ การที่จะบอกว่าการกระทำใดดี-ชั่วนั้นมีหลักเกณฑ์ในการประเมิน 3 ประการ คือ การกระทำ ความตั้งใจ สภาพแวดล้อม ทุกองค์ประกอบต้องดีจึงถือว่าบุคคลนั้นเป็นคนทำดี
แต่เนื่องจากมนุษย์อยู่บนพื้นฐานของความหลากหลาย ทำให้หลักเกณฑ์ในการเลือกหรือตัดสินคุณค่าของความดีจึงแตกต่างกันไปตามปรัชญา สภาพแวดล้อม จุดประสงค์ วัฒนธรรม การศึกษา ฯลฯ ดังนั้น ความดี ของแต่ละบุคคลจึงแตกต่างกัน จุดประสงค์ในการสอนของครู ความเข้มข้นของการกำหนดระดับจริยธรรมโดยครูจึงแตกต่างกัน สะท้อนให้เห็นจุดอ่อนของระบบการพัฒนาคนดี การสร้างเสริมคุณธรรมจริยธรรม แนวทางการเสริมสร้างที่นักวิชาการมากมายพยายามนำเสนอดูเหมือนจะไม่มีผลกับการปฏิบัติในลักษณะการถ่ายทอดเพราะผู้สอนนั้นเห็นความจำเป็นของการสอนในระดับที่ต่างกัน บางคนเน้น บางคนเห็นว่าไม่สำคัญ บางคนคิดว่าสอนไปก็เท่านั้นไม่มีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม ฯลฯ ปัญหานี้เป็นสิ่งท้าทายในการจัดการศึกษาเพื่อสร้างคนดีในปัจจุบัน
นักพัฒนาหลักสูตรจึงเห็นความสำคัญในการวางแนวทางการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของสถานศึกษา เห็นว่าต้องจัดให้มีนโยบายที่ชัดเจนในด้านการจัดให้หลักสูตรพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมเชิงปฏิบัติการแก่ผู้เรียน และหลักสูตรถ่ายทอดคุณธรรมจริยธรรมให้แก่ผู้สอนเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติและนำความรู้ไปใช้ให้ถูกทาง เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งคุณธรรมจริยธรรมที่ควรสร้างให้แก่บุคคลในปัจจุบัน ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ความอดทนและความอุตสาหะ โดยถ่ายทอดในลักษณะให้ความรู้เพื่อที่สามารถจะประเมินการกระทำได้ ว่าก่อนที่จะทำสิ่งใดบุคคลจะต้องให้รู้ว่าสิ่งนั้นดี-ไม่ดี ตามหลัก 3 ประการ คือ การกระทำ ความตั้งใจ สภาพแวดล้อม ทุกองค์ประกอบต้องดีจึงถือว่าบุคคลนั้นเป็นคนทำดี
วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
ทฤษฎีแรงจูงใจของการอ้างสาเหตุ (The Attribution Theory of Motivation)
ทฤษฎีแรงจูงใจของการอ้างสาเหตุสามารถพบได้ในแนวคิดของนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม ที่มีอิทธิพลต่อทฤษฎีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ไวเนอร์ (Weiner) ได้ให้ข้อสังเกตว่า ในการสืบหาความเข้าใจ มีอยู่บ่อยครั้งที่นนำไปสู่การตั้งคำถามเกี่ยวกับความสำเร็จและความล้มเหลว นักเรียนอาจจะถามตนเองว่า "ทำไมเราจึงสอบกลางภาคตก" หรือ "มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเรียงความของเรา" ไวเนอร์เชื่อว่า นักเรียนและบุคคลทั่วไป พยายามที่จะอธิบายว่า ทำไมเขาจึงทำอย่างนั้น ทำไมส่ิงเหล่านั้นจึงเกิดขึ้นเพื่อที่จะอธิบายสาเหตุ ดังนั้นนักเรียนจึงพยายามที่จะอธิบายเหตุผลของคะแนนที่ได้รับ เช่น ความสามารถ ความพยายาม อารมณ์ ความโชคดี ความช่วยเหลือ ความสนใจ หรือการเรียนการสอนที่แจ่มชัด หรืออาจจะกล่าวได้ว่า ไวเนอร์ได้สร้างทฤษฎีจูงใจของการอ้างสาเหตุ ซึ่งรวมเอาความคิดที่มีพลังเกี่ยวกับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์และผลของแรงจูงใจที่มีต่อประสบการณ์ความสำเร็จ และความล้มเหลวเข้าไว้ด้วย จุดสำคัญของทฤษฎีนี้อยูที่ความเข้าใจเกี่ยวกับการอธิบายสาเหตุของความสำเร็จและความล้มเหลวของบุคคล
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
