1. get information seeking
2. know why I reading
3-5. don't read everything; DO read=scan + select some
6. Prioritize
etc.
by Jim Allen,2007
วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554
reference: curriculum
จินตนา ศิริธัญญารัตน์ และคณะ (2544). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่องการออกแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการย้อนกลับ (Backward Design) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียน.
บทความน่าสนใจ
คุณธรรมของแมคอินไตยกับบริบทของการเมืองไทย
Macintyre's Virtues: An Application to thai Politics MacIntyre's
Macintyre's Virtues: An Application to thai Politics MacIntyre's
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ 8 (2540-2544)
ฉบับที่ 9 (2545-2549)
ฉบับที่ 10 (2550-2554)
ฉบับที่ 9 (2545-2549)
ฉบับที่ 10 (2550-2554)
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554
Organizing Research and development at the Intersection of Learning, Implementation, and Design
การจัดดำเนินการวิจัยและพัฒนา
ณ จุดประสานของการเรียน การนำไปใช้และการออกแบบ
William R. Penuel, Barry J.Fishman, Britte Haugan Cheng, and Nora Sabilli
บทความนี้บรรยายองค์ประกอบของกระบวนการวิจัยและการพัฒนาที่เรียกว่า design-based implement research กระบวนการนี้นำเสนอการออกแบบงานวิจัยที่กว้างขวางออกไป เป็นงานวิจัยที่เป็นประเภทที่โฟกัสในห้องเรียนเพื่อรวมถึงการพัฒนาและการทดสอบนวัตกรรมที่สนับสนุนแนวทางและการประสานเป็นหนึ่งเดียวของการสนับสนุนเพื่อพัฒนาการสอนและการเรียน ดังที่ปรากฎในงานวิจัยเชิงนโยบาย การนำไปใช้เป็นกุญแจเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาและการสังเคราะห์เชิงทฤษฎี สิ่งที่แยกแยะจุดเด่นของวิธีการนี้จากทั้งงานวิจัยแบบเดิมและการวิจัยเชิงนโยบาย คือองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ คือ
- มุ่งประเด็นสู่ปัญหาที่เกิดขึ้นยาวนานในเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิบัติจากมุมมองภาพรวมของผู้สนับสนุนที่หลากหลาย
- เป็นข้อตกลงเพื่อการออกแบบเชิงร่วมมือที่ต้องย้ำเตือนบ่อยๆ
- เป็นความห่วงใยเกี่ยวกับทฤษฎีการพัฒนาที่เกี่ยวข้องทั้งในการเรียนในห้องเรียนและการนำไปใช้ผ่านวิธีการตั้งคำถามอย่างเป็นระบบ
- เป็นความห่วงใยเกี่ยวกับความสามารถในการพัฒนาเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในระบบงาน
คำสำคัญ การปฏิรูปการศึกษา, กระบวนการ/กลยุทธ์ทางการเรียนรู้, รูปแบบผสมผสาน, การเปลี่ยนแปลง/ทฤษฎีองค์กร
วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
การเสี่ยงกับความสัมพันธ์แท้จริง
เมื่อเราเสี่ยงพอที่จะรักใครสักคนหนึ่ง
เราก็ยอมเสี่ยงกับการได้รับความเจ็บปวด
หลังจากที่มีความเจ็บปวดแล้ว
เราก็เป็นเหมือนเต่าที่หดตัวเข้าในกระดองของมัน
หลายคนสิ้นชีวิตในสภาพนั้น เขาจะไม่เจ็บปวดอีก
แต่เขาก็จะไม่รู้จักความรักอีกเลย
ความรักเปรียบได้กับเหรียญที่มีสองด้าน
ความปลาบปลื้มสูงสุดและการบรรลุถึงความสำเร็จ
อาจประดับเข้ามาในหัวใจท่านแต่ความปวดร้าวและความเจ็บปวด
ก็อาจเขย่าจิตวิญญาณของท่านได้ แต่ก็ขอให้ท่านเสี่ยงที่จะรักเถิด
เสี่ยงที่จะเผยจิตวิญญาณของท่านกับเพื่อนที่แท้จริงสักคนหนึ่ง
เหตุว่าความรักคือดอกกุหลาบที่ห้อมล้อมไปด้วยกอหนาม
เราก็ยอมเสี่ยงกับการได้รับความเจ็บปวด
หลังจากที่มีความเจ็บปวดแล้ว
เราก็เป็นเหมือนเต่าที่หดตัวเข้าในกระดองของมัน
แต่เขาก็จะไม่รู้จักความรักอีกเลย
ความรักเปรียบได้กับเหรียญที่มีสองด้าน
ความปลาบปลื้มสูงสุดและการบรรลุถึงความสำเร็จ
อาจประดับเข้ามาในหัวใจท่านแต่ความปวดร้าวและความเจ็บปวด
ก็อาจเขย่าจิตวิญญาณของท่านได้ แต่ก็ขอให้ท่านเสี่ยงที่จะรักเถิด
เสี่ยงที่จะเผยจิตวิญญาณของท่านกับเพื่อนที่แท้จริงสักคนหนึ่ง
เหตุว่าความรักคือดอกกุหลาบที่ห้อมล้อมไปด้วยกอหนาม
(ที่มา:การพบกับตำแหน่งแหล่งที่ของท่านในจักรวาล หน้า 39)
(ที่เจอ:สัปดาห์สารวัดแม่พระมหาทุกข์ท่าม่วง ฉ.134/11 วันที่ 13-19 พ.ย.)
วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ความพอดีสู่สังคมแห่งปัญญา
การเพิ่มความสามารถของผู้เรียนเพื่อโลกอนาคต
การสร้างสังคมแห่งปัญญาและการเรียนรู้
"ความพอดีระหว่าง....."
- การเป็นผู้นำกับการเป็นผู้ตาม
- ความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่มกับความสามารถในการดำรงตนอย่างปัจเจกบุคคล
- เสรีภาพกับความรับผิดชอบ
- สมรรถนะในการแข่งขันกับความรู้สึกพอและรู้จักร่วมมือ
- การเห็นประโยชน์วิทยาการสมัยใหม่กับความชื่นชมในภูมิปัญญาดั้งเดิม
- การเปิดรับวัฒนธรรมต่างประเทศกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและเอกลักษณ์ไทย
- การเรียนรู้เพื่อพัฒนางานและการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองและเพื่อนกับความรักที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิต
- การเพิ่มพูนทักษะและความสามารถเฉพาะทางกับการเพิ่มพูนสุนทรียภาพและความรอบรู้ในภาพรวม
ศาสตราจารย์ ดร.สิปปนนท์ เกตุทัต
บรรยายโดย อาจารย์ดร.ประเสริฐ มงคล
(24 ก.ค. 2554)
วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ยุทธวิธีการแก้ปัญหาให้กับคนที่มีความคิดแบบเดิมๆ ให้มีความคิดแบบใหม่ๆ
1. ส่งเสริมการคิดแบบมีวิจารณญาณ
2. ส่งเสริมการคิดแบบกลับทาง (reversal thinking)
3. ส่งเสริมการคิดแบบใช้สัญลักษณ์ใหม่ (Appreciative of Different Symbol)
4. ส่งเสริมการคิดแบบอุปมาอุปมัย (Analogy Thinking)
5. ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์แนวความคิด (Analyzing Point of View Thinking)
6. ส่งเสริมการคิดแบบเดิมให้สมบูรณ์ (Completion Thinking)
7. ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์เกี่ยวโยง (Web Analysis Thinking)
2. ส่งเสริมการคิดแบบกลับทาง (reversal thinking)
3. ส่งเสริมการคิดแบบใช้สัญลักษณ์ใหม่ (Appreciative of Different Symbol)
4. ส่งเสริมการคิดแบบอุปมาอุปมัย (Analogy Thinking)
5. ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์แนวความคิด (Analyzing Point of View Thinking)
6. ส่งเสริมการคิดแบบเดิมให้สมบูรณ์ (Completion Thinking)
7. ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์เกี่ยวโยง (Web Analysis Thinking)
Condellics and Wendy.
DREAM AND PASSION
P profit
A ambition
S sincerity
S strenght
I innovation
O optimism
N never give up
"All of you need to have passion"
เปรียบเป็นผลสัมฤทธิ์ตามความคาดหวังของนักพัฒนาหลักสูตรในการสร้างหรือเขียนหลักสูตรให้เป็นไปตามสิ่งเหล่านี้
ปรัชญาและวิธีคิดแบบนักวางแผนหลักสูตร
1. คิดพิจารณาจากฐานข้อมูลจริง วิเคราะห์ความต้องการและประเมินความจำเป็นให้สอดคล้องกับลักษณะของผู้เรียน
2. พิจารณาพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมโดยการปรับกรอบการเรียนรู้ที่เอื้อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่พึงประสงค์
3. จัดหลักสูตรบนพื้นฐานปรัชญาและให้มีความหลากหลายโดยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
4. จัดให้มีทางเลือกมากที่สุด เน้นหลักสูตรของผู้เรียนไม่ใช่การสอน
5. จัดหลักสูตรให้เอื้อต่อความพร้อมที่ไม่เท่ากันของผู้เรียน
6. จัดหลักสูตรให้ผู้เรียนคิดระดับโลกแต่ปฏิบัติได้ในระดับท้องถิ่น
7. จัดหลักสูตรให้คำนึงตั้งแต่วันแรกเกิดจนวันตาย
8. จัดหลักสูตรให้พิจารณาภาพรวมของหลักสูตรในประเทศอื่นๆ เพื่อผู้เรียนได้ก้าวสู่มาตรฐานโลก
9. จัดหลักสูตรโดยมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
2. พิจารณาพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมโดยการปรับกรอบการเรียนรู้ที่เอื้อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่พึงประสงค์
3. จัดหลักสูตรบนพื้นฐานปรัชญาและให้มีความหลากหลายโดยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
4. จัดให้มีทางเลือกมากที่สุด เน้นหลักสูตรของผู้เรียนไม่ใช่การสอน
5. จัดหลักสูตรให้เอื้อต่อความพร้อมที่ไม่เท่ากันของผู้เรียน
6. จัดหลักสูตรให้ผู้เรียนคิดระดับโลกแต่ปฏิบัติได้ในระดับท้องถิ่น
7. จัดหลักสูตรให้คำนึงตั้งแต่วันแรกเกิดจนวันตาย
8. จัดหลักสูตรให้พิจารณาภาพรวมของหลักสูตรในประเทศอื่นๆ เพื่อผู้เรียนได้ก้าวสู่มาตรฐานโลก
9. จัดหลักสูตรโดยมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
consideration of curriculum planners
- what knowledge is the most worth for most students
- what instructional methods may be employed must effectively to transmit this knowledge
- what kind of school should our society have
หลักการสำหรับนักพัฒนาหลักสูตร
- ความรู้อะไรที่มีคุณค่าสำหรับนักเรียนจำนวนมากที่สุด ปัจจุบันความรู้มีมากหลายประเภท ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราสามารถนำมาหยิบจับทำเป็นความรู้เพื่อถ่ายทอดให้เกิดการพัฒนาได้ทั้งหมด แต่หลักที่ดีที่สุดคือให้เลือกความรู้ที่มีคุณค่าสำหรับนักเรียนกลุ่มใหญ่
- วิธีการที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความรู้ให้เกิดกับตัวนักเรียน เครื่องมือสำหรับสร้างความรู้ให้กับผู้เรียนประกอบด้วย หลักสูตร เนื้อหา การวัดและประเมินผล นอกจากนี้หมายความรวมถึง การออกแบบสื่อการสอนด้วย
ประเภทของการสอน ศาสตร์การสอนได้พัฒนารูปแบบการสอนใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ ครูเป็นศูนย์กลางกับนักเรียนเป็นศูนย์กลาง
เหล่านี้เป็นกลยุทธ์ในการเลือกเนื้อหาเพื่อนักพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554
สอบครั้งแรก
1- 2 ต.ค. 54 ได้สัมผัสประสบการณ์สอบระดับปริญญาเอก ครั้งแรก ตื่นเต้นมาก ได้โจทย์มาแล้วต้องมานั่งแปล แปลจากไทยเป็นไทยนี่หละ ไม่ใช่จาอังกฤษเป็นไทยแต่อย่างไร สอบเสร็จผ่านไปมานั่งทบทวนว่าเวลาสอบไม่เหมือนตอนเด็กๆ ที่เตรียมตัวแบบ "ท่องไปสอบ" ป.เอกเป็นเหมือนกับมานั่ง "ประมวลสาระ" อ่านอะไรมา รู้อะไร ทำอย่างไร สอดคล้องกับคำถามในด้านใดบ้าง ค่อยๆ เขียนไป เวลาได้ข้อสอบมาแล้วสิ่งแรกที่ทำคือ วิเคราะห์โจทย์
แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ แถมมีความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นอีกต่างหาก
แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ แถมมีความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นอีกต่างหาก
วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554
พื้นฐานการพัฒนาหลักสูตร "ด้านสังคม"
หลักสูตรที่จะนำไปสอนชุมชนต้องมีความสัมพันธ์กับสังคมอย่างแยกไม่ออก และธรรมชาติของสังคมและวัฒนธรรมมักมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ดังนั้นการพัฒนาหลักสูตรจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงข้อมูลทางสังคมและวัฒนธรรมที่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ จึงจะทำให้หลักสูตรีความสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน สามารถแก้ปัญหาและสนองความต้องการสังคมได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการวิเคราะห์ความต้องการใหม่ ผลของการวิเคราะห์ออกมาอย่างไร หลักสูตรก็จะเปลี่ยนจุดหมายไปแนวนั้น สามารถจำแนกข้อมูลให้เห็นชัดเจนได้ดังนี้
1. โครงสร้างของสังคม แบ่งเป็นสังคมชนบทและสังคมเมือง การพัฒนาหลักสูตรจำเป็นต้องศึกษาโครงสร้างของสังคมที่เป็นอยู่ปัจจุบัน และแนวโน้มโครงาร้างสังคมในอนาคตเพื่อที่จะได้ข้อมูลมาจัดหลักสูตรว่า จะจัดหลักสูตรอย่างไรเพื่อยกระดับการพัฒนาสังคมเกษตรกรรมและเตรียมพื้นฐานเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมตามความจำเป็น
2. ค่านิยมในสังคม ค่านิยม หมายถึง สิ่งที่คนในสังคมเดียวกันมองเห็นว่ามีคุณค่าเป็นที่ยอมรับ การพัฒนาหลักสูตรจึงจำเป็นต้องศึกษาค่านิยมต่างๆในสังคมไทยว่า ค่านิยมชนิดไหนสมควรได้รับการเปลี่ยนแปลงหรือดำรงไว้ หน้าที่ของนักพัฒนาหลักสูตรต้องศึกษาและเลือกค่านิยมที่ดีและสอดแทรกไว้ในหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนเพื่อปลูกฝังและสร้างค่านิยมที่ดีในสังคมไทย
3. ธรรมชาติของคนในสังคม ธรรมชาติของคนในแต่ละสังคมย่อมแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมและค่านิยม ซึ่งทำให้คนไทยมีบุคลิกภาพต่างๆกัน เช่น ยึดมั่นตัวบุคคล ยกย่องบุคคลที่มีการศึกษาสูง ยกย่องผู้มีเงิน รักความอิสระ เชื่อโชคลาง เล่นพวก ไม่กระตือรือร้น ฯลฯ การพัฒนาหลักสูตรต้องคำนึงถึงลักษณะธรรมชาติ บุคลิกของคนในสังคม ในสภาพปัจจุบัน เพื่อจัดการศึกษาตามที่สังคมต้องการ
4. การชี้นำสังคมในอนาคต ระบบพัฒนาหลักสูตรในอดีตเป็นลักษณะของการตั้งรับมาโดยตลอด ความต้องการและปัญหาของสังคม จึงให้การศึกษาเป็นตัวตาม เป็นเครื่องมือที่คอยพัฒนาไปตามกระแสของความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นผลผลิตที่ได้จากหลักสูตร คือ ผู้เรียนเป็นผู้ที่วิ่งตามสังคม ฉะนั้นการจัดการศึกษาที่ดีควรใช้การศึกษาที่ดีควรใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศในอนาคตให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นักพัฒนาหลักสูตรจึงควรศึกษาข้อมูลต่างๆที่เป็นเครื่องชี้นำสังคมในอนาคต เช่น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
5. ลักษณะสังคมตามความคาดหวัง นักพัฒนาหลักสูตรควรจะได้ศึกษาข้อมูลหรือมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเปลี่ยนแปลงต่างๆเพื่อที่จะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าสภาพสังคมในอนาคต 5-10 ปี ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร แม้จะเป็นการยากแก่การพยากรณ์แต่เป็นทางที่จะช่วยผลิตประชากรให้แก่สังคมได้อย่างสอดคล้องตามนโยบายการศึกษาของชาติ และในการผลิตคนให้แก่สังคมในอนาคตที่ทำได้แน่นอนคือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพในการดำรงชีวิต จรรโลงสภาพสังคมในอนาคตให้ดีขึ้น
หน้าที่ของนักพัฒนาหลักสูตรก็คือ จะต้องพิจารณาว่าจะจัดหลักสูตรอย่างไรรูปแบบใดจึงจะทำให้ประชากรมีคุณภาพดี
6. ศาสนาและวัฒนธรรมในสังคม ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในสังคม วัฒนธรรมเป็นสัญลักษณ์อันสำคัญที่จะแสดงให้ทราบว่าเขาเหล่านั้นเป็นคนในสังคมเดียวกันหรือเป็นคนชาตเดียวกัน ดังนั้นศาสนาและวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการพัฒนาหลักสูตร ทั้งนี้เพราะจุดประสงค์สำคัญของหลักสูตรก็คือการทำนุบำรุงรักษาและถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ดีงามไว้ และสกัดกั้นวัฒนธรรมที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อป้องกันไม่ให้มาทำลายความเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย การพัฒนาหลักูตรจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงศาสนาและวัฒนธรรม ความรู้และหลักธรรมทางศาสนาต่างๆนำมาบรรจุไว้ในหลักสูตร คือสอนให้คนอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข ด้านวัฒนธรรมนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพราะวิทยาการต่างๆเจริญก้าวหน้า ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมอย่างรวดเร็ว การพัฒนาหลักสูตรจึงต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม
1) เป็นเลิศวิชาการ
2) สื่อสาร 2 ภาษา
3) ล้ำหน้าความคิด
4) ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์
5) ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก
วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554
เทคโนโลยีทางการศึกษา
เทคโนโลยีทางการศึกษา คือ วิธีการทางการศึกษาที่เป็นระบบ มีขั้นตอนของการทำงานให้ได้ผลและมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ วิธีการทางเทคโนโลยีทางการศึกษาประกอบด้วย
1. วัสดุ หมายถึง เนื้อหาสาระ เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องช่วยสอนและกระบวนการเรียนรู้
2. วิธีการ หมายถึง กิจกรรมต่างๆ ที่นำเข้าสู่ระบบ
ส่วนเทคโนโลยีทางการสอน หมายถึง การออกแบบการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบขั้นตอน โดยอาศัยความรู้ ทฤษฎีการสื่อสารและกระบววนการเรียนรู้ การพิจารณาถึงปัจจัยตัวแปรในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบหลักสูตรที่สะท้อนความเป็นระบบ คือ 1) กำหนดวัตถุประสงค์ของหลักสูตร 2)กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) การนำไปทดลองปฏิบัติตรวจสอบ ปรับแก้ เพื่อหาประสิทธิภาพ 4) การประเมิน
ส่วนเทคโนโลยีทางการสอน หมายถึง การออกแบบการเรียนการสอนอย่างมีระบบขั้นตอน โดยอาศัยความรู้ในด้านกระบวนการเรียนรู้และทฤษฎีสื่อสาร การพิจรณาถึงปัจจัยตัวแปรในสถานการณ์ต่างๆ
1. วัสดุ หมายถึง เนื้อหาสาระ เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องช่วยสอนและกระบวนการเรียนรู้
2. วิธีการ หมายถึง กิจกรรมต่างๆ ที่นำเข้าสู่ระบบ
ส่วนเทคโนโลยีทางการสอน หมายถึง การออกแบบการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบขั้นตอน โดยอาศัยความรู้ ทฤษฎีการสื่อสารและกระบววนการเรียนรู้ การพิจารณาถึงปัจจัยตัวแปรในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบหลักสูตรที่สะท้อนความเป็นระบบ คือ 1) กำหนดวัตถุประสงค์ของหลักสูตร 2)กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) การนำไปทดลองปฏิบัติตรวจสอบ ปรับแก้ เพื่อหาประสิทธิภาพ 4) การประเมิน
ส่วนเทคโนโลยีทางการสอน หมายถึง การออกแบบการเรียนการสอนอย่างมีระบบขั้นตอน โดยอาศัยความรู้ในด้านกระบวนการเรียนรู้และทฤษฎีสื่อสาร การพิจรณาถึงปัจจัยตัวแปรในสถานการณ์ต่างๆ
วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554
บทความดีๆๆ
ใกล้จะจบเทอมแล้วค่ะ การบ้านมากมาย กำลังหาความรู้ใส่สมองเยอะๆๆ หวังว่าเพื่อนๆ คงจะเตรียมตัวสอบกันแล้วเหมือนกันนะคะ สัปดาห์ที่ผ่านมาพอดีได้อ่านวารสารวิชาการ อ่านเจอ Hybrid Learning น่าสนใจดี เป็นแนวเดียวกับ Blended Learning ที่เป็นการผสานรูปแบบการสอนในห้องเรียน ครูพบนร. นร.พบครู กับ เทคโนโลยี ที่ไม่ต้องมาโรงเรียนก็เจอครูได้น่ะค่ะ แล้วไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554
คุณลักษณะอาชญากรรม
คุณลักษณะที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมจัดแยกได้เป็น 3 ด้าน คือ
1) ลักษณะที่มีปัญหาด้านไม่หยุดนิ่ง-ขาดแรงกระตุ้น-ขาดความตั้งใจ (hyperactive-impulsive-attention problem) คุณลักษณะด้านนี้แสดงถึงการมีพลังมากเกินพอดีทำให้ไม่สามารถหยุดนิ่งชอบพูดมาก ส่งเสียงดัง ส่วนคุณลักษณะด้านขาดแรงกระตุ้นแสดงถึงการไม่มีเหตุผลแสดงออกโดยการทำไม่คิด การไม่มีสมาธิในการทำงาน การขัดจังหวะการพูดของผู้อื่น การไม่พิจารณาไตร่ตรองผลของพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ส่วนคุณลักษณะด้านการขาดความตั้งใจสะท้อนออกในทางความประพฤติที่เกิดขึ้น ส่วนคุณลักษณะด้านการขาดความตั้งใจสะท้อนออกในรูปของการขาดสมาธิในการฟัง ชอบทำของใช้ที่จำเป็นหายและการหลงลืม2) สภาวะที่มีปัญหาทางความประพฤติ แสดงออกในรูปของการลักขโมย การจุดไฟ การหนีออกจากบ้าน การทำลายข้าวของ การต่อสู้ การพูดปดและการทำร้ายสัตว์ การประทุษร้ายร่างกายผู้อื่น พฤติกรรมการบำบัดที่ถูกต้อง พฤติกรรมดังกล่าวจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เป็นที่น่าเสียดายว่าพฤติกรรมเหล่านี้มักถูกวินิจฉัยว่าเป็นความบกพร่องทางการเรียนรู้ทั้งๆ ที่เป็นพฤติกรรมที่มีปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข
3) การมีระดับสติปัญญาต่ำ มีการวิจัยแสดงให้เห็นว่าเด็กที่มีระดับสติปัญญาต่ำ มีแนวโน้มที่จะเกิดการทำงานผิดปกติของจิตประสาทอันนำไปสู่ความประพฤติที่เป็นปัญหาและการมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และพัฒนาไปเป็นการก่ออาชญากรรมเมื่อเด็กโตขึ้น
ทฤษฎีทางด้านคุณลักษณะแฝงของบุคคลเน้นความสำคัญของการอบรมเลี้ยงดูต่อการสร้างคุณลักษณะนิสัยและการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของเด็ก ทฤษฎีเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ยากจน เด็กที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูจากพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ขาดความสม่ำเสมอในการอบรมสั่งสอน เด็กที่มีระดับสติปัญญาต่ำมีแนวโน้มที่จะเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ขาดความตั้งใจ มีพฤติกรรมเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง ไม่มีเหตุผลและมีความประพฤติไม่เป็นที่พึงปรารถนา คุณลักษณะเหล่านี้จะพัฒนาไปสู่ผู้กระทำผิดหรือก่ออาชญากรรมเมื่อมีอายุมากขึ้น
เมื่อประมวลปัจจัยที่มีความสัมพันธ์หรือส่งอิทธิพลถึงระดับคุณธรรมจริยธรรมตามทฤษฎีพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่กล่าวมาทั้งหมดจะได้ตัวแปรที่เป็นสาเหตุแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีวิถีชีวิตในสาขาจิตวิทยาและสังคมวิทยา ได้แก่ ระดับสติปัญญาช่วงวัย การให้รางวัล/การลงโทษ การเลียนแบบจากตัวแบบและการอบรมสั่งสอน กลุ่มที่สอง คือ ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีคุณลักษณะแฝงทางอาชญวิทยา ได้แก่ การอบรมเลี้ยงดู ระดับสติปัญญา การขาดความตั้งใจ ความไม่มีเหตุผล การไม่หยุดนิ่ง และมีปัญหาด้านความประพฤติ
วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554
รูปแบบการสอนแบบบูรณาการ
การสอนแบบบูรณาการ ตามแนวปรัชญาของ Dewey ที่กล่าวว่าการจัดการเรียนการสอนต้องพัฒนาผู้เรียนในลักษณะเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ในตัว มิใช่เป็นการพัฒนาเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งเรื่องเดียว การจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการจึงเป็นกระบวนการริเริ่ม สร้างสรรค์ที่ผู้สอนต้องผสมผสานเนื้อหาสาระจากรายวิชาและวิธีการสอนที่ประสบความสำเร็จจากที่ได้เรียนรู้ในอดีตเข้าด้วยกันเพื่อพัฒนาผู้เรียนโดยองค์รวม (Merickel, 1998) รูปแบบการสอนแบบบูรณาการสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้
1. การสอนแบบบูรณาการภายในวิชา
เป็นการนำเนื้อหาภายในวิชาเดียวไปสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับชีวิตจริงและให้ผู้เรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะไปใช้ในชีวิตจริงในบริบทที่มีความหมายซึ่งจะทำให้การเรียนของผู้เรียนมีความหลากหลาย
2. การสอนแบบบูรณาการระหว่างวิชา
เป็นการเชื่อมโยงหรือรวมศาสตร์ต่างๆ ตั้งแต่ 2 วิชาขึ้นไปภายใต้หัวเรื่อง (theme) เดียวกัน เป็นการเรียนรู้โดยใช้ความรู้ ความเข้าใจและทักษะในศาสตร์หรือความรู้ในวิชาต่างๆ มากกว่า 1 วิชาขึ้นไปเพื่อแก้ปัญหาหรือแสวงหาความรู้ความเข้าใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและใกล้เคียงกับชีวิตจริงซึ่งแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบคือ
2.1 แบบพหุวิทยาการ (multidisciplinary instruction) หรือ แบบสอดแทรก (infusion)
เป็นการสอนที่ครูผู้สอนในวิชาหนึ่งสอดแทรกเนื้อหาของวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในวิชาหลักที่เป็นวิชาที่ครูผู้นั้นรับผิดชอบการสอน ลักษณะของการเรียนการสอนส่วนใหญ่เป็นการวางแผนการสอนและสอนโดยครูเพียงคนเดียว
2.2 แบบคู่ขนาน (parallel instruction)
เป็นการสอนที่ครูตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปที่สอนต่างวิชากัน ต่างคนต่างสอน แต่วางแผนการสอนร่วมกันโดยมุ่งสอนหัวเรื่อง (theme)/ความคิดรวบยอด (concept)/ปัญหา (problem) เดียวกัน ระบุและตัดสินใจร่วมกันว่าจะสอนหัวเรื่อง/ความคิดรวบยอด/ปัญหานั้นๆ อย่างไรในวิชาของแต่ละคน งานที่มอบหมายให้นักเรียนทำจะแตกต่างกันไปในแต่ละวิชาแต่อยู่ภายใต้หัวเรื่อง/ความคิดรวบยอด/ปัญหาร่วมกัน
2.3 แบบสหวิทยาการ (interdisciplinary instruction)
คล้ายๆ กับการสอนแบบคู่ขนาน ต่างกันตรงร่วมกันสอนในวิชาเดียวกัน กล่าวคือ ครูตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปสอนต่างวิชากันแต่วางแผนการสอนให้เป็นวิชาผสมผสาน มุ่งสอนหัวเรื่อง/ความคิดรวบยอด/ปัญหาเดียวกัน โดยอาจจะแยกกันสอนคนละตอนหือเข้าสอนพร้อมกันทุกตอนก็ได้ ส่วนใหญ่มีการมอบหมายงานหรือโครงการ (project) ร่วมกันซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงวิชาต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นเนื้อเดียว ครูผู้สอนทุกคนจะต้องวางแผนร่วมกันเพื่อที่จะระบุว่าจะสอนหัวเรื่อง/ความคิดรวบยอด/ปัญหาในแต่ละวิชาร่วมกันอย่างไรและวางแผนโครงการสอนร่วมกัน (หรือกำหนดงานที่จะมอบหมายให้นักเรียนทำร่วมกัน) และกำหนดว่าจะแบ่งโครงการสอนนั้นออกเป็นโครงการย่อยๆ ให้นักเรียนปฏิบัติแต่ละหัวข้ออย่างไร
2.4 แบบข้ามวิชาหรือสอนเป็นคณะ (transdisciplinary instruction)
การสอนรูปแบบนี้ครูที่สอนวิชาต่างๆ จะมารวมกันเป็นคณะหรือเป็นทีมโดยมีจุดประสงค์ที่ให้ผลที่เกิดจากการสอนเป็นแบบเดียวกัน วิธีการจัดการเรียนการสอนอยู่ในรูปแบบของคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้สอนของทุกรายวิชา วางแผนและกำหนดหัวเรื่อง/ความคิดรวบยอด/ปัญหา จัดสรรภาระงานสอน และสอนนักเรียนในกลุ่มเดียวกัน
ทั้งนี้จุดมุ่งหมายสำคัญของการสอนแบบบูรณาการเน้นความสำคัญของการให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ตรงที่หลากหลาย มีกิจกรรมการทำงานกลุ่มร่วมกัน มีปฏิสัมพันธ์และเกิดการเรียนรู้ที่ได้รับจากครูผู้สอน คือ พัฒนาการด้านปัญญาแบบพหุปัญญา เป็นองค์รวมของผู้เรียน รวมทั้งพัฒนาวิธีการเรียนรู้และการพัฒนาคุณลักษณะนิสัยที่พึงประสงค์ของผู้เรียนที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวันและความต้องการของสังคม
ศุนย์คุณธรรม (2551).
วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
R. W. Tyler.
มีคำถามมาฝากค่ะ ใครตอบถูกได้รางวัลด้วยนะ !!!! (เฉลย 30 ส.ค.54)
Question : เจ้าของทฤษฎีทั้งสองนี้ เป็นคนเดียวกันหรือไม่??????
Curriculum Theory Vs Project Evaluation
(Tyler's Rationare) (Triple Ps Model)
1949 1950
ในทางหลักสูตรมี Tyler ทางวัดและประเมินก็มี Tyler เหมือนกันก็เลยสงสัยซะเลยว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า????? ลองตอบดูนะคะ ข้อมูลของท่านเป็นประโยชน์สำหรับแวดวงการศึกษาไทยค่ะ
Question : เจ้าของทฤษฎีทั้งสองนี้ เป็นคนเดียวกันหรือไม่??????
Curriculum Theory Vs Project Evaluation
(Tyler's Rationare) (Triple Ps Model)
1949 1950
ในทางหลักสูตรมี Tyler ทางวัดและประเมินก็มี Tyler เหมือนกันก็เลยสงสัยซะเลยว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า????? ลองตอบดูนะคะ ข้อมูลของท่านเป็นประโยชน์สำหรับแวดวงการศึกษาไทยค่ะ
วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
การทดสอบค่าเฉลี่ย กรณี 1 ตัวอย่าง
สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ใช้ในการวิจัยและข้อมูลที่ผู้วิจัยมีอยู่ ในสัปดาห์นี้จะกล่าวถึง การทดสอบค่าเฉลี่ย กรณีที่มีตัวอย่าง 1 กลุ่ม ข้อสังเกต สถิติตัวนี้จะใช้เมื่อมีข้อมูลชุดเดียวแล้วโจทย์ให้ทดสอบค่าเฉลี่ยแล้วเทียบกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เช่น จงทดสอบว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนกลุ่มนี้มากกว่า 50 คะแนนหรือไม่***
วิธีทำดังนี้
วิธีทำดังนี้
1.เริ่มต้นที่ Data View เลือกคำสั่งเพื่อการวิเคราะห์ในที่นี้เป็นการ test Value ใช้คำสั่งดังนี้ AnalyzeàCompare meanàOne Sample T-Test
2. นำ X ไปใส่ในช่อง test Variable กำหนดค่า test value เป็น 50 สมมติฐานคือ H0:µ ≤ 50, H1:µ > 50 เลือก OK
เวลาที่จะพิจารณาว่า Sig หรือไม่ ดังนี้
1. สมมติฐานเป็นแบบทางเดียว (ใช้เครื่องหมาย>,<,≥,≤)
หรือสองทาง (ใช้เครื่องหมาย = , ≠ )
2. ถ้าค่า Sig ที่ได้น้อยกว่าระดับนัยสำคัญที่กำหนด (α)ภาษาพูด = “Sig น้อยกว่าแอลฟ่า” ให้ปฎิเสธสมมติฐานหลักแล้วยอมรับสมมติฐานรอง **แต่หากเป็นการทดสอบทางเดียวเหมือนครั้งนี้ให้นำ Sig ÷2 แล้วค่อยเทียบ α**
วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
การวิเคราะห์ทางสถิติ
หัวใจสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
คือ นักวิจัยต้องจดจำขั้นตอนการทดสอบสมมติฐานทางสถิติให้ได้
ด้วยความเป็นสถิติ วิชาตามหลักคณิตศาสตร์ที่มีกฎเกณฑ์และต้องใช้การวิเคราะห์เป็นขั้้นตอน นักวิจัยหลายท่านคงรู้สึกว่าสถิติเป็นเรื่องยาก ซับซ้อน ไม่สามารถเข้าใจได้
แต่หากนักวิจัยเข้าใจหลักการของสถิติ หรือใช้คำตามภาษาพูดว่า "จับจุด" ได้นั้น ก็ไม่เกินความสามารถของสติปัญญาที่จะเข้าใจ ดังนั้น เพื่อนๆ หลายคนคงต้องจดจำ "ขั้นตอนการทดสอบสมมติฐาน" เพื่อเป็นจุดหลักและจุดเริ่มต้นสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์..
ขั้นตอนการทดสอบสอบสมมติฐาน
1. กำหนดสมมติฐาน
2. กำหนดระดับนัยสำคัญ
3. กำหนดสถิติที่ใช้ ***มีรายละเอียดที่จะอธิบายในครั้งต่อไป***
4. คำนวณค่าสถิติทดสอบ
5. สรุปผล (นำค่า sig ที่ได้จากตาราง output มาเปรียบเทียบกับระดับนัยสำคัญที่กำหนดในข้อ 2 ถ้า Sig<ระดับนัยสำคัญให้ ปฏิเสธสมมติฐานหลักยอมรับสมมติฐานรอง)
**นี่คือหัวใจสำคัญและอยากให้เพื่อนๆ จดจำ หัวใจ 5 ขั้นตอนนี้ให้ได้ก่อนที่จะก้าวสู่ขั้นต่อไปสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์**
วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
หลักสูตรคนดี
ความมีศีลธรรมของการกระทำของมนุษย์ขึ้นอยู่กับ 1) สิ่งที่เลือก 2) จุดหมายปลายทางซึ่งกำหนดไว้ล่วงหน้าหรือความตั้งใจ 3) สภาพแวดล้อมของการกระทำ “การกระทำ ความตั้งใจ สภาพแวดล้อม” ทำให้เกิด "แหล่งที่มา" หรือองค์ประกอบที่สร้างขึ้นของความมีศีลธรรมของการกระทำของมนุษย์ การที่จะบอกว่าการกระทำใดดี-ชั่วนั้นมีหลักเกณฑ์ในการประเมิน 3 ประการ คือ การกระทำ ความตั้งใจ สภาพแวดล้อม ทุกองค์ประกอบต้องดีจึงถือว่าบุคคลนั้นเป็นคนทำดี
แต่เนื่องจากมนุษย์อยู่บนพื้นฐานของความหลากหลาย ทำให้หลักเกณฑ์ในการเลือกหรือตัดสินคุณค่าของความดีจึงแตกต่างกันไปตามปรัชญา สภาพแวดล้อม จุดประสงค์ วัฒนธรรม การศึกษา ฯลฯ ดังนั้น ความดี ของแต่ละบุคคลจึงแตกต่างกัน จุดประสงค์ในการสอนของครู ความเข้มข้นของการกำหนดระดับจริยธรรมโดยครูจึงแตกต่างกัน สะท้อนให้เห็นจุดอ่อนของระบบการพัฒนาคนดี การสร้างเสริมคุณธรรมจริยธรรม แนวทางการเสริมสร้างที่นักวิชาการมากมายพยายามนำเสนอดูเหมือนจะไม่มีผลกับการปฏิบัติในลักษณะการถ่ายทอดเพราะผู้สอนนั้นเห็นความจำเป็นของการสอนในระดับที่ต่างกัน บางคนเน้น บางคนเห็นว่าไม่สำคัญ บางคนคิดว่าสอนไปก็เท่านั้นไม่มีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม ฯลฯ ปัญหานี้เป็นสิ่งท้าทายในการจัดการศึกษาเพื่อสร้างคนดีในปัจจุบัน
นักพัฒนาหลักสูตรจึงเห็นความสำคัญในการวางแนวทางการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของสถานศึกษา เห็นว่าต้องจัดให้มีนโยบายที่ชัดเจนในด้านการจัดให้หลักสูตรพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมเชิงปฏิบัติการแก่ผู้เรียน และหลักสูตรถ่ายทอดคุณธรรมจริยธรรมให้แก่ผู้สอนเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติและนำความรู้ไปใช้ให้ถูกทาง เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งคุณธรรมจริยธรรมที่ควรสร้างให้แก่บุคคลในปัจจุบัน ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ความอดทนและความอุตสาหะ โดยถ่ายทอดในลักษณะให้ความรู้เพื่อที่สามารถจะประเมินการกระทำได้ ว่าก่อนที่จะทำสิ่งใดบุคคลจะต้องให้รู้ว่าสิ่งนั้นดี-ไม่ดี ตามหลัก 3 ประการ คือ การกระทำ ความตั้งใจ สภาพแวดล้อม ทุกองค์ประกอบต้องดีจึงถือว่าบุคคลนั้นเป็นคนทำดี
วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
ทฤษฎีแรงจูงใจของการอ้างสาเหตุ (The Attribution Theory of Motivation)
ทฤษฎีแรงจูงใจของการอ้างสาเหตุสามารถพบได้ในแนวคิดของนักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม ที่มีอิทธิพลต่อทฤษฎีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ไวเนอร์ (Weiner) ได้ให้ข้อสังเกตว่า ในการสืบหาความเข้าใจ มีอยู่บ่อยครั้งที่นนำไปสู่การตั้งคำถามเกี่ยวกับความสำเร็จและความล้มเหลว นักเรียนอาจจะถามตนเองว่า "ทำไมเราจึงสอบกลางภาคตก" หรือ "มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเรียงความของเรา" ไวเนอร์เชื่อว่า นักเรียนและบุคคลทั่วไป พยายามที่จะอธิบายว่า ทำไมเขาจึงทำอย่างนั้น ทำไมส่ิงเหล่านั้นจึงเกิดขึ้นเพื่อที่จะอธิบายสาเหตุ ดังนั้นนักเรียนจึงพยายามที่จะอธิบายเหตุผลของคะแนนที่ได้รับ เช่น ความสามารถ ความพยายาม อารมณ์ ความโชคดี ความช่วยเหลือ ความสนใจ หรือการเรียนการสอนที่แจ่มชัด หรืออาจจะกล่าวได้ว่า ไวเนอร์ได้สร้างทฤษฎีจูงใจของการอ้างสาเหตุ ซึ่งรวมเอาความคิดที่มีพลังเกี่ยวกับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์และผลของแรงจูงใจที่มีต่อประสบการณ์ความสำเร็จ และความล้มเหลวเข้าไว้ด้วย จุดสำคัญของทฤษฎีนี้อยูที่ความเข้าใจเกี่ยวกับการอธิบายสาเหตุของความสำเร็จและความล้มเหลวของบุคคล
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)








